☆—• The ịnnőśĕnŧ ▼HỉSọ •Gu«˝ต เติ้ล Zaa™ •—☆

วันพุธที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

พระจันทร์ยิ้ม ปรากฎการณ์ดาวเคียงเดือน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. วันนี้(1ธ.ค.) ได้เกิดปรากฎการณ์ดาราศาสตร์สวยงามบนท้องฟ้าในช่วงหัวค่ำ ซึ่งนักดาราศาสตร์เรียกว่า “ดาวเคียงเดือน” สามารถสังเกตเห็นได้ทั่วกทม.และในต่างจังหวัดที่มีท้องฟ้าเปิด
โดยปรากฎการณ์ดาวเคียงเดือน เป็นปรากฎการณ์ที่สามารถมองเห็นดาวเคราะห์สว่างสุกใส 2 ดวง คือดาวศุกร์ และดาวพฤหัสบดี พร้อมกับดวงจันทร์เสี้ยวมาปรากฎอยู่ใกล้กันทางทิศตะวันตกเฉียงใต้หลังจากที่พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว ซึ่งเมื่อมองขึ้นไปบนท้องฟ้าเราสามารถมองเห็นเป็นลักษณะเหมือนพระจันทร์ยิ้ม
น.ส.ประพีร์ วิราพร นายกสมาคมดาราศาสตร์ไทย เปิดเผยว่า ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นจะทำให้เห็นเหมือนรูปพระจันทร์ยิ้ม แต่ทางดาราศาสตร์เรียกว่า ปรากฎการณ์ดาวเคียงเดือน โดยข้างล่างเป็นดวงจันทร์ขึ้น 4 ค่ำ เดือน 1 ข้างบนดวงที่สว่างสุดเป็นดาวศุกร์ ส่วนดวงที่สว่างน้อยกว่าเป็นดาวพฤหัส
สำหรับในปีนี้มีความพิเศษกว่าหลาย ๆ ปีที่ผ่านมา เพราะปกติปรากฎการณ์ดาวเคียงเดือนจะมีดาวที่มาเคียงดวงจันทร์แค่ดวงเดียว ซึ่งบางครั้งอาจจะเป็นดาวศุกร์หรือดาวพฤหัส ส่วนปรากฏการณ์ที่ดาวสองดวงมาเคียงเดือนนั้น ถือว่าเป็นปรากฏการณ์ที่หาดูได้ยาก และสามารถดูได้เพียงวันที่ 1 ธ.ค.51 นี้เท่านั้น นับตั้งแต่เวลาพระอาทิตย์ตกจนถึงเวลาประมาณ 20.30 น. สำหรับในวันพรุ่งนี้(2ธ.ค.) พระจันทร์จะอยู่สูงกว่าดวงดาว 12 องศา ซึ่งจะเห็นเป็นรูปพระจันทร์หน้าบึ้งกลับหัว
“ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น ดาวพฤหัส ดาวศุกร์และดวงจันทร์ โคจรมาอยู่ในกลุ่มดาวคนยิงธนู ซึ่งดาวพฤหัสจะใช้เวลาในการเปลี่ยนราศีปีละ 1 ราศี และใช้เวลาโคจรรอบดวงอาทิตย์ทั้งหมด 12 ปี ทำให้โอกาสของดาว 2 ดวงและพระจันทร์โคจรมาอยู่บนราศีเดียวกันเป็นเรื่องยาก ต้องใช้เวลานับ 10 ปี ซึ่งปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องแปลก เป็นไปตามระบบสุริยะ แต่เป็นเรื่องยากที่จะได้พบเห็น และครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ตนเองมีโอกาสได้เห็น ดาว 2 ดวงเคียงเดือน เพราะในอนาคตยังไม่แน่ใจว่าหากเกิดปรากฎการณ์แบบนี้ขึ้น ท้องฟ้าจะเป็นใจให้สามารถมองเห็นได้เหมือนครั้งนี้หรือไม่” น.ส.ประพีร์ กล่าว
น.ส.ประพีร์ กล่าวต่อว่า ปรากฏการณ์ดาวเคียงเดือนนี้เป็นเหมือนหน้าพระจันทร์ยิ้มบนท้องฟ้ามองลงมา ซึ่งอาจเปรียบได้ว่าอาจจะมีสิ่งดี ๆ เกิดขึ้นหลังจากที่บ้านเมืองวุ่นวายมานาน.

วันอาทิตย์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

วันพุธที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2552

วิธีขจัด "ความง่วง" ระหว่างอ่านหนังสือ...
หากพูดถึงการอ่านหนังสือแล้วหละก็...สิ่งที่เป็นของคู่กัน...คงจะหนีไม่พ้นอาการง่วงหนาว หาวนอน...หาว หาว หาว ไม่รู้เป็นอะไร...เปิดหนังสือทีไรเป็นต้อง “หาวนอน” ทุกที...งั้นวันนี้ พี่ลาเต้ เลยมีวิธีแก้ง่วงนอนในระหว่างอ่านหนังสือมาฝากกันครับ...จะเป็นอะไรนั้นไปดูกันเลย... ความง่วงนอนนั้นมีหลายขั้น ตามที่ได้แบ่งไว้ดังนี้
1. ความง่วงนอนขั้นต้น อาการ - เป็นความง่วงที่ค่อย ๆ เกิดขึ้น จะทำให้สติของเราล่องลอยไปเที่ยวสักพัก ไม่กี่นาทีหรอก แล้วก็จะกลับมาที่เดิม อาจมีอาการอ้าปากหาวบ้างเล็กน้อย แต่จะไม่บ่อยนัก วิธีแก้ - ควรจะลุกขึ้นไปล้างหน้าล้างตาให้สดชื่น หรือออกแรง เช่น การบิดขี้เกียจให้ร่างกายมีความตื่นตัว กระปรี้กระเปร่า พูดง่าย ๆ คือ ทำอะไรก็ได้ ที่ทำให้ร่างกายเราสดชื่นขึ้น
2. ความง่วงขั้นกลาง อาการ - เป็นความง่วงที่สะสมมาจากความง่วงขั้นต้น สติเริ่มหายไปเที่ยวนานขึ้น อาการหาวก็มีถี่ขึ้น อาจมีอาการสัปหงกเล็กน้อย วิธีแก้ - ควรจะหลับตาลงพักผ่อนสักครู่ อาจะ 10-15 นาที แล้วตื่นขึ้นมาไปล้างหน้าล้างตา เพื่อให้สดชื่น หรือไปทำอะไรสักอย่าง ไปเดินเล่น หรือฟังเพลง ดื่มนม กาแฟนี่ไม่แนะนำเท่าไรนัก เพราะ อาจเกิดอาการหลับในได้ ก็ง่วงมาก แต่ตายังค้าง เสียสุขภาพกายเปล่า ๆ น่า
3. ความง่วงขั้นรุนแรง อาการ - เป็นความง่วงที่ไม่อาจทัดทานได้ไหว สติแทบจะไม่มีแล้ว หัวอาจสัปหงกลงไปจูบกับโต๊ะได้ทุกเมื่อ หรืออาจเกิดอาการฟุบหลับคาหนังสือ วิธีแก้ - ไปนอนซะ ถึงอ่านไปก็ไม่เข้าหัวอยู่ดี เลิกทรมานตัวเองได้แล้ว ถ้ายังอ่านไม่จบก็ปลงซะ มาถึงขั้นนี้แล้ว ไม่ว่าจะทำไง สมองก็ไม่พร้อมจะรับอะไรอีกแล้วทั้งนั้นแหละน่า... ข้อมูลจากวิกิพีเดีย